ปัญหา ฟันล้ม ใกล้ตัวกว่าที่คิด ล้มได้ยังไง? บทความนี้มีคำตอบ!!
ฟันล้ม ปัญหาใกล้ตัวเกินกว่าที่จะหลาย ๆ คนจะคาดคิด เมื่อพูดถึงคำว่าปัญหาฟันที่ล้มลงแล้วสำหรับบางคนที่ไม่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก แวบแรกที่ได้ยินอาจจะรู้สึกสงสัยว่าฟันคนเรามันจะล้มได้ยังไงกันนะ? เพราะตัวฟันมันก็ติดอยู่กับเหงือกนี่นา มันจะล้มได้ยังไงก่อน!
แต่เชื่อหรือไม่คะว่า มันเป็นสิ่งน่ากลัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งแปลว่ามันเกิดกับคุณได้ด้วยเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เคยผ่านการจัดฟันมาบ้างแล้ว ถ้าได้ยินคำว่าฟันนั้นล้ม ล่ะก็… บอกเลยว่าต้องครั้นเนื้อครั้นตัว ระแวงสุด ๆ ไปเลยละค่ะ เพราะมันน่ากลัวไม่ใช่เล่น ๆ อาจต้อง จัดฟันรอบสอง เลยทีเดียว
แต่ก่อนที่เข้าประเด็นในเรื่อง ฟันที่เคลื่อนล้มและความน่ากลัวของปัญหานี้กันแบบจริงจัง เรามาเริ่มทำความรู้จักกับอาการของฟันที่ล้มกันก่อนดีกว่าค่ะว่า ฟันที่ล้มมันคืออะไร เราจะรู้ลักษณะของฟันแบบนี้ได้ยังไง สาเหตุเกิดจากอะไร แล้วเราควรป้องกันไม่ให้ฟันเกิดล้มได้ด้วยวิธีไหนบ้าง วันนี้แอดมินจะพาทุกคนมาหาคำตอบด้วยกันที่บทความนี้เลยนะคะ อยากรู้ติดตามกันต่อเลย
ลักษณะของฟันที่ล้มเป็นอย่างไร มันจะล้มได้ไงก็ติดอยู่ด้วยกัน
ในลักษณะทางการแพทย์แล้ว ฟันเคลื่อนล้มมันก็คืออาการของฟันที่มีการเคลื่อนที่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เนื่องจากตัวฟันมันขาดสมดุล เอาล่ะ งงกันเลยสิแล้วฟันขาดสมดุลมันเป็นยังไง งั้นมาลองจินตนาการภาพตามแอดมินดูง่าย ๆ ว่า ปกติแล้วฟันเราทุกซี่มันจะเรียงชิดติดกันใช่ไหมคะ แต่พอฟันซี่ใดซี่หนึ่งเกิดหายไป มันก็ทำให้ฟันข้าง ๆ ที่เหลืออยู่ไม่มีที่ยึดเกาะ เราจึงเรียกฟันแบบนี้ว่าเป็นฟันที่ขาดสมดุล ที่มาของปัญหาฟันเคลื่อนล้มลงนั่นเอง
พอเกิดช่องว่างระหว่างฟันของซี่ที่เหลืออยู่ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าบวกกับที่ฟันที่ถูกใช้งานขบเคี้ยวอาหารอยู่ตลอดเวลา เลยทำให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงเกิดอาการล้มได้นั่นเองค่ะ และหากขืนปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ปัญหานี้อาจจะลุกลามบานปลายไปได้อีกหลายอย่าง เช่น เหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ และกระดูกพรุน ตามกันมาแบบคอมโบชุดใหญ่ บอกแล้วมันน่ากลัวจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่ควรมองข้ามเลยนะคะ
สรุปว่าฟันเสียสมดุลจนล้มเกิดจากอะไรกันแน่
โดยปกติแล้ว ปัญหาฟันเกิดล้มนี้ มักจะตามมาจากปัญหาฟันห่าง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากถอนฟันออกไปแล้วไม่ยอมใส่ฟันปลอมมาทดแทน การเกิดอุบัติเหตุบางอย่างจนทำให้สูญเสียฟันบางซี่ และหลังจากจัดฟันเสร็จแล้วไม่ยอมใส่รีเทนเนอร์จึงทำให้ ฟันนั้นล้มหลังจัดฟัน ดังนั้นปัญหาฟันที่ล้มจึงไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องเกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่ผ่านการจัดฟันเท่านั้นแบบที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่ยังสามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นได้ด้วย รายละเอียด มีดังนี้ค่ะ
1. ฟันเริ่มล้ม จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
ฟันก็เปรียบเสมือนเครื่องจักรนั่นแหละค่ะ ที่เมื่อผ่านการใช้งานไปนานเข้า ก็ย่อมเกิดการสึกหรอเป็นธรรมดา ทั้งตัวฟันและเหงือกก็จะไม่แข็งแรงเหมือนสมัยหนุ่มสาววัยใส โดยเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ดูแลช่องปากอย่างถูกวิธี ฟันก็ย่อมสึกหรอได้ง่ายกว่า
2. ถอนฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอม
ทันทีที่ฟันซี่ใดซี่หนึ่งถูกถอนออกไปก็จะทำให้ฟันซี่เหลืออยู่เสียสมดุลหรือขาดตัวยึดเกาะข้าง ๆ และเมื่อฟันที่เสียสมดุลเกิดการใช้งานนาน ๆ เข้า เช่น การเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ ก็จะทำให้ฟันที่เสียสมดุลนั้นค่อย ๆ เอน เอียง และสุดท้ายล้มลงได้ในที่สุด
3. อุบัติเหตุจนทำให้ฟันหลุด
กรณีนี้จะคล้าย ๆ กับการถอนฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอม ด้วยเหตุผลเดียวกันที่ว่าพอฟันหลุดออกไปแล้วไม่มีที่ยึดเกาะข้าง ๆ จึงมีความเสี่ยงที่ฟันจะเกิดล้มโดยง่ายนั่นเองค่ะ กรณีนี้พบในเด็ก ๆ ที่กำลังซุกซน หกล้มจนฟันหลุดบ่อย
4. จัดฟันแล้วฟันเคลื่อนล้ม เพราะไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามที่แพทย์แนะนำ
เครื่องมือป้องกันฟันไม่ให้ล้มหรือที่รู้จักกันในชื่อ รีเทนเนอร์ จะทำหน้าที่เป็นตัวคอยพยุงฟันของเราไม่ให้เคลื่อนที่ภายหลังจากการจัดฟัน สำหรับคนที่เพิ่งถอดเหล็กจัดฟันออก จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใส่รีเทนเนอร์ไว้อย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง ไม่เช่นนั้นแล้วล่ะก็.. อาจจะเกิดปัญหาฟันห่าง ฟันเก และฟันเสียสมดุลจนล้มหลังจัดฟันได้นั่นเอง
5. เกิดจากความผิดปกติของฟันหรือขากรรไกรตั้งแต่กำเนิด
ความผิดปกติของฟันหรือกระดูกขากรรไกรสามารถพบได้ตั้งแต่ถือกำเนิดและระหว่างการเจริญเติบโตของร่างกาย ส่งผลให้มีความลำบากในการเคี้ยวอาหาร การพูดหรือการออกเสียงได้ รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพของเหงือกและฟันโดยตรง ถึงแม้จะเป็นที่เรื่องที่ควบคุมไม่ได้แต่ก็พบเจออาการฟันเกิดล้มลงได้จากสาเหตุนี้อยู่บ่อย ๆ ค่ะ สำหรับกรณีนี้ แอดมินแนะนำว่าควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไปค่ะ
กันไว้ ดีกว่าแก้ ฟันล้มขึ้นมาซวยแน่ถ้าแก้ไม่ทัน!
สำหรับวิธีการป้องกันและหลีกหนีปัญหาฟันเคลื่อนล้ม อย่างที่ได้บอกไปเบื้องต้นแล้วว่า ปัญหาฟันเกิดล้มสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยและยิ่งหากปล่อยไว้นาน ๆ โดยที่ไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับคำแนะนำอย่างถูกวิธี ก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาที่ลุกลามใหญ่โตตามมาได้
ดังนั้น เรามาไล่ลำดับเช็กลิสต์วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟันเคลื่อนล้มกันเลยดีกว่า จะมีอะไรบ้าง เลื่อนลงไปอ่านต่อกันได้เลยค่ะ
1. การหมั่นดูแลและทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
เรียกได้ว่าเป็นวิธีการป้องกันการเกิดปัญหาฟันไม่ให้ล้มได้ดีที่สุดเลยค่ะ เพราะหากเรามีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงดีแล้ว เราก็จะสามารถลดปัญหาทางช่องปากและความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการฟันไม่แข็งแรงจนล้ม ไปได้เยอะเลย
2. หมั่นตรวจสุขภาพในช่องปากทุก ๆ 6 เดือน
เชื่อว่าเป็นข้อที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือนจะช่วยให้เรารับรู้ปัญหาสุขภาพช่องปาก และเมื่อมันเกิดมีปัญหาฟันเคลื่อนล้มขึ้นมา เราก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
3. การใส่รีเทรนเนอร์หลังจัดเพื่อไม่ให้เกิดภาวะ ฟันล้มหลังจัดฟัน
ในข้อนี้อาจจะดูน่าหงุดหงิดสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการจัดฟัน แต่การใส่รีเทรนเนอร์เป็นประจำตามที่แพทย์สั่งสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการ จัดฟันแล้วฟันเกิดล้มแล้ว ยังช่วยเรื่องฟันเกและฟันห่าง ภายหลังจากการจัดฟันได้อีกด้วย แอบกระซิบว่าที่ Teeth Talk Dental Clinic มีรีเทนเนอร์สวย ๆ ให้เลือกหลายสี หลายสไตล์มาก รับรองว่าช่วยลดความน่าเบื่อของการใส่รีเทนเนอร์ไปได้อีกเท่าตัวเลย
หากฟันเกิดล้มลงไปแล้วต้องรักษายังไง
สำหรับใครที่แก้ไขปัญหาฟันเคลื่อนล้มไม่ทันแล้วเกิดความกังวลในการรักษา บอกเลยว่าเลิกเครียดไปได้เลยค่ะ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ถึงฟันจะล้มไปแล้วก็รักษาได้ ดังนี้
1. ใส่ฟันปลอมทดแทน
สำหรับในกรณีถอนฟันและเกิดอุบัติเหตุจนฟันหลุด สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก ด้วยการใส่ฟันปลอมทดแทนฟันที่สูญเสียไป เป็นวิธีรักษาฟันที่ล้มได้อย่างดี เพราะมีประสิทธิภาพสูง ช่วยปิดช่องว่างระหว่างฟัน รวมทั้งฟันซี่ข้าง ๆ ก็มีสิ่งยึดเกาะเหมือนเดิม จึงง่ายต่อการใช้งาน เพียงเท่านี้ก็สามารถหลีกหนีปัญหาฟันเคลื่อนล้มได้แล้วค่า
2. ใส่รีเทนเนอร์
ถึงแม้การใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันอาจไม่ใช่วิธีการรักษาโดยตรง แต่มันคือการป้องกันไม่ให้ฟันนั้นล้มไปมากกว่าเดิมค่ะ อย่างที่ทราบกันดีว่ารีเทนเนอร์นั้นต้องใส่ตลอด ไม่อย่างนั้นฟันก็จะกลับมาล้มใหม่ในตำแหน่งเดิม
3. จัดฟันซ้ำอีกรอบ
หากว่าฟันของเราเคลื่อนที่ไปมากหรือฟันเกิดล้มไปแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้เพียงแค่หยิบรีเทรนเนอร์มาใส่นะคะ กรณีนี้อาจจะต้องเริ่มต้นจัดฟันใหม่เลย โดยใช้เหล็กหรือลวดดึงฟันกลับเข้ามาใหม่ สามารถเลือกรูปแบบการจัดฟันได้ดังนี้
จัดฟันโลหะ
จัดฟันเซรามิก
จัดฟันดามอน
จัดฟันใส
อ่านบทความ รวมการจัดฟันทุกรูปแบบเพิ่มเติมได้ที่ บทความ นี้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม การจัดฟันซ้ำนั้นเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาแล้วยังต้องมาเจ็บซ้ำสองอีก ถึงแม้ระยะเวลา จัดฟันรอบสอง จะสั้นกว่ารอบแรกตามแต่ความหนักเบาของปัญหาสำหรับแต่ละเคส แต่การดูแลที่ดีตั้งแต่ต้นมันคงจะดีกว่าการปล่อยให้ล้มลงไปก่อนแล้วมาจัดฟันซ้ำซาก จริงไหมล่ะคะ
ทำไมต้องจัดฟันที่ Teeth Talk Dental Clinic
- ทันตแพทย์เกียรตินิยมอันดับ 1
- มีสียางให้เลือกหลายหลาย
- ใส่ใจในการตรวจและวางแผนการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้มีความทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
- ราคาเข้าถึงง่าย และเหมาะสม
- มีทันตแพทย์ประจำคลินิกทุกวัน
มาถึงตรงนี้คงเห็นตรงกันแล้วนะว่า ปัญหาฟันเคลื่อนล้ม และสุขภาพช่องปากไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามเลยจริง ๆ เพราะฉะนั้นหากรู้อย่างนี้แล้ว เรามาเริ่มดูแลสุขภาพช่องปากของเราอย่างจริงจัง จะได้มีฟันที่แข็งแรงดี อยู่คู่กับเราไว้กินอะไรอร่อย ๆ กันไปนาน ๆ และถ้าไม่รู้ว่าจะไปตรวจเช็กปัญหาฟันล้มที่ไหน คงต้องขอฝาก Teeth Talk Dental Clinic ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในใจคุณด้วยนะค้า